อเมซอนปอดของโลกป่าของเรา

อเมซอนปอดของโลกป่าของเรา ป่าอเมซอนได้ชื่อเป็นป่าไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ในลุ่มน้ำอเมซอน โดยพื้นที่ของป่าแห่งนี้กินอาณาเขตไปถึง 9 ประเทศ และจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าอเมซอนที่มีอย่างมหาศาล จึงทำให้หลาย ๆ คนละเลยที่จะใส่ใจรักษาป่าของโลกแห่งนี้ไว้ จนเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพวกเราทุกคน ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราทุกคนจะหันมาใส่ใจโลกอย่างจริงจัง

เขตชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ป่าอเมซอน เป็นป่าฝนที่มีขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่มากถึง 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในลุ่มน้ำอเมซอนที่กินพื้นที่ถึง 7.4 ล้านตารางกิโลเมตร โดยครอบคลุมพื้นที่ 40 % ของละตินอเมริกา แต่พื้นที่ 60 % ของลุ่มน้ำอเมซอนอยู่ในประเทศบราซิล ซึ่งป่าแห่งนี้มีพืชที่ได้รับการจำแนกกว่า 30,000 ชนิด ปลา 2,500 ชนิด นก 1,500 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 500 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 550 ชนิด และแมลงอีก 2.5 ล้านชนิด และที่สำคัญคือพืชบางชนิดยังพบได้แค่ที่ป่าอเมซอนที่เดียวอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น ลุ่มน้ำอเมซอนยังเป็นแหล่งน้ำจืดที่ไม่ถูกแช่แข็งถึง 20 % เป็นแม่น้ำที่มีความยาวที่สุดในโลก และที่สำคัญคือ ป่าอเมซอนยังได้ชื่อว่าเป็นปอดของโลก เพราะป่าแห่งนี้ทำหน้าที่ในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศของโลกถึง 1,500-2,000 ล้านตันต่อปี ผลิตออกซิเจนได้สูงถึง 20 % ซึ่งช่วยในการควบคุมภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างมาก

เมื่อป่าอเมซอนถูกทำลาย

จากรายงานขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ระบุว่า พื้นที่ของป่าอเมซอนได้หายไปเกือบ 20 % ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา และยังมีอัตราการทำลายป่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าอเมซอนที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ล้วนแล้วเกิดจากฝีมือมนุษย์เราด้วยกันทั้งสิ้น โดยตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม มีรายงานไฟไหม้ป่ากว่า 71,497 ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 39,194 ครั้ง ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเพียงแค่วันที่ 15 สิงหาคมผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ากว่า 9,500 จุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าแค่ระยะเวลาไม่นานกลับเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าเป็นจำนวนมาก เมื่อป่าไม้ถูกทำลายผลกระทบไม่เพียงตกอยู่แค่สัตว์ป่าเท่านั้น แต่ผลกระทบร้ายแรงได้ตกมาอยู่ที่โลกของเรา และมนุษย์เองก็เป็นผู้รับกรรมจากการกระทำของตนเอง

ฟิล์มสำหรับอาคารที่ดีต้องช่วยลดโลกร้อน

ดังนั้นการมีต้นไม้ก็เหมือนเป็นการติดฟิล์มสำหรับอาคารให้แก่โลก ดังเช่นที่วินกูลฟิล์ม เราได้เข้าใจถึงปัญหาทุกวันนี้ ที่เรียกว่า “ภาวะโลกร้อน” ซึ่งวินกูลฟิล์มเป็นฟิล์มสำหรับอาคาร ที่สามารถลดความร้อนของโลกได้อย่างน้อย 3 องศา ซึ่งถ้าเราเพิ่มอุณหภูมิแอร์ขึ้น 1 องศา ก็จะลดการทำงานของแอร์ลงได้ถึง 10 % และยังสามารถลดค่าไฟแสนแพงได้ถึง 50 % ต่อเดือนอีกด้วย เพราะค่าไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่เราต้องจ่ายกันนั้น 60-70 % มาจากการเปิดแอร์แทบทั้งสิ้น ด้วยภายในอาคารที่ไม่ได้ติดฟิล์มอาคาร หรือเป็นกระจกเปล่ามีความร้อนสะสมอยู่มากถึง 71 %

ฟิล์มประหยัดพลังงานของวินกูลฟิล์มนั้น ไม่เพียงช่วยลดความร้อนภายในบ้านอย่างเดียวเท่านั้น แต่ฟิล์มสำหรับอาคาร แต่ยังสามารถลดการใช้พลังงาน จึงทำให้ความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาลดลง เมื่อความร้อนในสภาพแวดล้อมลดลง การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความร้อนของโลกก็สามารถลดลงได้ในที่สุด และที่สำคัญยังเป็นการลดภาวะโลกร้อนอย่างยั่งยืนอีกด้วย

วินกูลฟิล์มวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนที่ดีสำหรับเราทุกคน เราเข้าใจดีว่าแต่ละบ้านมีปัญหาความร้อนแตกต่างกันไป ฟิล์มสำหรับอาคารแต่ละชนิดก็แก้ปัญหาไม่เหมือนกัน

หากต้องการปรึกษาปัญหาความร้อนภายในอาคาร หรือภายในบ้านสามารถติดต่อเราได้ที่ winkoolfilm.com หรือโทร. 0-2933-9664, 08-1359-5599 หรือ Line @winkoolfilm